What to explore
ใครอยากเที่ยวแบบลงลึกในรายละเอียด แนะนำให้ซื้อ Shore excursion เพิ่มเติม เพื่อจะได้เที่ยวแต่ละเมืองได้ละเอียดยิ่งขึ้น เพราะเป็นทัวร์ชายฝั่งแบบ one day trip ที่เรือจอดแวะแต่ละท่าระหว่างการล่องเรือ หรือซื้อแพ็กเกจ 7-day cruise plus 7-night land tour ที่จะทำให้คุณได้เที่ยวเมืองอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น เก็ตตี้สเบิร์ก, ฟิลาเดลเฟีย, วอชิงตัน ดี ซี ฯลฯ หรือ แพ็กเกจ 10-14 day cruise plus 5-night land tour ที่เน้นหนักไปยังแคนาดา ได้เยือนน้ำตกไนแองการา, มอนทรีอัล, ออตตาวา ฯลฯ แบบจุใจ สำหรับคนที่ชื่นชอบ
หรือถ้าจะเดินเที่ยวเองวันต่อวัน ก็ลุยได้เลยตามไฮไลท์ที่เราเก็บมาฝาก ดังต่อไปนี้
New York City, New York มหานครนิวยอร์ก มีครบทุกรสชาติสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ตั้งแต่การเก็บภาพมุมสูงจากตึก Empire State เดินเล่นชิลๆ ใน Central Park อันกว้างใหญ่ นั่งเรือเฟอรี่ชมเทพีเสรีภาพและเก็บภาพเส้นขอบน้ำตัดกับตึกสูงระฟ้า ดื่มด่ำที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum of Art หรือพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางอื่นๆ ที่คุณสนใจ และรำลึกถึงผู้สูญเสีย ณ The National 9/11 Memorial & Museum ที่สำคัญคือไม่ควรพลาดการชมละครบรอดเวย์และเดินเล่นที่ไทม์สแควร์อันเต็มไปด้วยแสงสียามค่ำคืน
New Port, Rhode Island นิวพอร์ทอาจโด่งดังจากการแสดงคอนเสิร์ตกลางแจ้งและเทศกาลดนตรีริมทะเลที่จัดขึ้นช่วงฤดูร้อน แต่การเดินทางเยือนเมืองนี้ไปพร้อมกับ Princess cruises ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ก็มีสถาปัตยกรรมโคโลเนียลให้เดินสำรวจจนเพลินได้ทั้งวัน หรือจะนั่งรถเที่ยวชมเมืองบนเส้นทาง Ocean Drive ที่ยาวกว่า 20 กิโลเมตร ก็ถือเป็นอีกวิธีที่ดีในการเสพความงามของตึกรามบ้านช่องเก่าแก่สวยคลาสสิก ที่บรรดาเศรษฐีชาวนิวยอร์คมาสร้างบ้านพักตากอากาศในแถบนี้ไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ได้เต็มอิ่ม
Boston, Massachusettes มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ตั้งแต่การเดินสำรวจสถานทีสำคัญทางประวัติศาสตร์ตามเส้นทาง Freedom Trailถนนสายเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองมากว่า 250 ปี หรือเที่ยว Museum of Science เพื่อชมโครงกระดูกไดโนเสาร์และโดมผีเสื้อขนาดยักษ์, Museum of Fine Arts Bostonที่จัดเก็บสมบัติโบราณสำคัญจากทั่วโลก หรือ Harvard Art Museum and Museum of Natural History จัดแสดงพันธุ์ดอกไม้ พืชและแมลงที่ทำจากแก้วกว่า 3,000 ชิ้น สำหรับใครที่ชื่นชอบใบไม้เปลี่ยนสี แค่เดินทอดน่องหรือปั่นจักรยานเที่ยวในฤดูนี้ก็คุ้มค่าแล้ว
Bar Harbor, Maine สัญลักษณ์เด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ ประภาคาร และท้องทะเลที่เต็มไปด้วยฝูงนกพัฟฟิน ซึ่งหาชมได้ในแถบนี้เท่านั้น ด้วยความที่วิถีชีวิตของนกพัฟฟินจะอยู่แต่ในทะเล ขึ้นบกก็เฉพาะตอนวางไข่ ทำให้หากอยากเห็นเจ้านกจงอยปากสีสดใส ต้องล่องเรือไปดูกลางทะเล แนะนำให้ซื้อทริปล่องเรือชมวาฬเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้ชมวาฬและนกพัฟฟินแบบเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ที่สำคัญ อย่าลืมเผื่อเวลากินล็อปสเตอร์สดๆ จากทะเล ของดีที่เป็นไฮไลท์ประจำรัฐเมน
Saint John, New Brunswick อ่าวฟันดี้เป็นอ่าวที่มีระดับน้ำขึ้นสูงที่สุดในโลก โดยเวลาที่น้ำขึ้นจะมีปริมาณน้ำสูงขึ้นถึง 16.2 เมตร และมีปริมาณน้ำไหลเข้าและออกจากอ่าวมากกว่าแสนล้านตันต่อวัน ทำให้เกิดลักษณะนิเวศวิทยาทางทะเลแบบเฉพาะตัว หินตามชายฝั่งจึงมีรูปร่างแปลกตา ทั้งยังห้ามพลาดการไปเยือน Joggins Fossil Cliffs ชั้นหินที่มีซากฟอสซิลยุคหินที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้ชมเป็นขวัญตา
Halifax, Nova Scotia ห้ามพลาดการไปถ่ายรูปหมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใสที่ Peggy’s Cove บริเวณชายฝั่งตะวันออกของอ่าวเซนต์มากาเรตส์ ที่มีประคารเพ็กกี้ อันถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแคนาดา ตั้งตระหง่านอยู่ ณ บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์จอห์น แห่งนิกายแองกลิกันอันเก่าแก่ และยังมีพิพิธภัณฑ์ทางการทะเลฝั่งแอตแลนติก และพิพิธภัณฑ์คนเข้าเมืองแห่งแคนาดาให้เยี่ยมชม ส่วนนักดื่มแนะนำว่าห้ามพลาดการไปปักหลักดื่มเบียร์ที่โรงกลั่นเบียร์อเล็กซานเดอร์คีธ ที่เปิดทำการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1820!
Quebec, Canada การได้เดินทอดน่องบนถนนที่ปูด้วยก้อนหินในสมัยโบราณ ในย่าน Quartier Petit-Champlain ชวนให้จินตนาการถึงบรรยากาศเมื่อ 400 ปีก่อน ของควิเบกได้อย่างแจ่มชัด ไม่แปลกใจที่เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก แล้วอย่าลืมไปถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์ของช็องแปล็งที่ลาน Place d’Armes และ Chateau Frontenac อาคารขนาดใหญ่หลังคาสีเขียวสด อันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง แนะนำให้ซ้อมสนทนาภาษาฝรั่งเศสไว้หลายๆ ประโยค จะเที่ยวเมืองนี้ได้สนุกยิ่งขึ้น