นักเดินทางตัวจริงหลายคนยกย่องให้ ‘อลาสก้า’ เป็นดินแดนแห่งความสุดขั้ว เพียงชั่วขณะหนึ่งหลังดื่มด่ำกับสีขาวโพลนของธารน้ำแข็งที่กินอาณาเขตกว้างไกลตา คุณอาจไม่เชื่อสายตาที่ได้เห็นป่าเขาเขียวครึ้มที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางเยือนดินแดนแห่งนี้
ไฮไลท์ห้ามพลาดของการเยือนอลาสก้า คือการล่องเรือชมความอลังการของธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ในอุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ (Glacier Bay National Park) ที่จะทำให้คุณตกตะลึงด้วยภาพธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ปริแยกและเลื่อนตกสู่น้ำจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว อย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าโปรแกรมเดินทางของคุณรวมกลาเซียร์ เบย์ เอาไว้แล้ว เพราะในแต่ละวันทางอุทยานแห่งชาติจำกัดจำนวนเรือเข้าชมเพียงวันละ 2 ลำเท่านั้น! หรือเลือกเดินทางเยือนอลาสก้าด้วยเรือสำราญ Princess Cruises ซึ่งคุ้นเคยกับเส้นทางนี้มานานกว่า 50 ปี และได้รับสิทธิ์ให้ล่องไปชมความอลังการของ Glacier Bay มากที่สุด
สัตว์ท้องถิ่นของอลาสก้าที่เป็นที่รู้จักที่สุดอาจเป็นหมีขั้วโลกและปลาแซลมอน แต่ดินแดนแห่งนี้ยังมีสัตว์ป่าที่น่าสนใจและหาชมได้ยากอื่นๆ อีก อาทิ วาฬหลังค่อมน้ำหนัก 40 ตัวที่จะโผล่พ้นผิวน้ำมาสร้างความตื่นตาให้นักท่องเที่ยวที่รอชม รวมถึงวาฬเพชรฆาต วาฬเบลูก้า ปลาโลมา แมวน้ำ และสิงโตทะเลที่มีอยู่จำนวนมาก อลาสก้ายังเป็นสวรรค์ของนักดูนก เพราะที่นี่คือแหล่งอาศัยของนกราว 400 สายพันธุ์ รวมถึงนกอินทรีหัวขาว นกพัฟฟินจงอยปากสีสด นกนางนวล “คิตติเวค” และเหยี่ยวหางแดง หากมีเวลา แนะนำให้เพิ่มวันเดินทางและซื้อโปรแกรมพิเศษ เพื่อเดินทางไปชมหมีกริซลี่ กวางคาริบู กวางมูส หมาป่าสีเทา และแกะดอล (Dall sheep) เขาโค้ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 5 สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอุทยานแห่งชาติเดนาลี (Denali National Park) อุทยานแห่งชาติที่งดงามที่สุดอีกแห่งของสหรัฐฯ
อลาสก้าเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติราวครึงหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งหลายแห่งได้รับยกย่องว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติสำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ และอุทยานแห่งชาติเดนาลี สำหรับนักเดินทางที่ต้องการเจาะลึกอลาสก้า ยังมีอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ให้แวะเวียนไปสำรวจอีก อาทิ อุทยานแห่งชาติคีนายฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “สนามเด็กเล่นแห่งอลาสก้า” ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาและล่องแก่ง และอุทยานแห่งชาติแรงเกล-เซนต์อีเลียส (Wrangell-St. Elias) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และมีกิจกรรมยอดนิยมเป็นการล่องแก่งและจับปลาแซลมอน
คุณยังมา “ไม่ถึง” อลาสก้า ถ้ายังไม่ได้กินอาหารขึ้นชื่อของอลาสก้า เช่น ปลาแซลมอนสดๆ ปลาตาเดียว ปูอลาสก้า และไส้กรอกเนื้อกวาง ซึ่ง Princess Cruises คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาให้เชฟมืออาชีพที่ได้รับการอบรมโดยตรงจาก Alaska Seafood Marketing Institute มาปรุงให้ผู้โดยสารได้ลิ้มรสความอร่อยตำรับอลาสก้าแท้ๆ นอกจากนี้ยังมีเบียร์และวอดก้าแบรนด์ท้องถิ่นของอลาสก้า และวอดก้าแบรนด์ดังให้ได้เลือกสรรบนเรืออีกด้วย
อลาสก้าเป็นดินแดนแห่งเรื่องราว และ Princess Cruises ก็จัดโปรแกรมที่จะทำให้นักเดินทาง “เข้าถึง” อลาสก้าในแบบที่ไม่มีใครทำได้ โปรแกรมต่างๆ ได้แก่ การได้พูดคุยกับผู้พิทักษ์ป่าตัวจริงจากอุทยานแห่งชาติเดนาลี ที่ได้รับเชิญมาเป็นแขกบนเรือ ขณะที่นักธรรมชาติวิทยาจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับดอกไม้และสัตว์พื้นถิ่น และลักษณะทางธรณีวิทยาของอลาสก้า นอกเหนือไปจากการได้เรียนรู้เรื่องราวด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจากผู้เชี่ยวชาญเส้นทาง และย้อนรำลึกถึงการเดินทางของนักเดินทางคนแรกที่พิชิตยอดเขาเดนาลี ในรูปแบบละครเวทีระหว่างมื้อค่ำ
เพิ่มความสนุกให้การเดินทางของคุณด้วยการซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวระหว่างวันเพิ่มเติม Princess Cruise คัดสรรกิจกรรมน่าสนใจหลากหลายประเภทที่จะทำให้คนทุกกลุ่มเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมผจญภัย อย่างการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมทิวทัศน์ของธารน้ำแข็งจากมุมสูง การย่างเท้าไปบนธารน้ำแข็งด้วยตัวคุณเอง การนั่งเลื่อนที่ลากโดยสุนัข พายเรือคายัคและล่องแก่ง หรือเข้าป่าชมสัตว์หายากและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ รวมถึงการร่วมงานเต้นรำท้องถิ่น ชมการแข่งขันเลื่อยไม้ เรียนรู้งานหัตถกรรมพื้นเมือง และกิจกรรมเรียนรู้ประวัติศาสตร์